ฟ้าเดียวกัน 9/2 : มรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์?

฿200.00


สินค้าหมดแล้ว

รหัสสินค้า: 9786169080268 หมวดหมู่:

ข้อมูลสินค้า

บทบรรณาธิการ

มรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มรดกของใคร?

หาเรื่องมาเล่า

มลายูมุสลิม สถาบันกษัตริย์ไทย และอำนาจอธิปไตยในสภาวะยกเว้น

ดาริน อินทร์เหมือน

รัฐไทยกับความรุนแรงตั้งแต่ 2475-ปัจจุบัน : คำถาม หรอบคิด และปัญหา

อัญชลี มณีโรจน์

คำขบวน

Council Communism ลัทธิคอมมิวนิสต์สภาแรงงาน

ภัควดี วีระภาสพงษ์

ทัศนะวิพากษ์

มรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในปัจจุบัน

ธงชัย วินิจจะกูล

มรดกของใคร?

นิธิ เอียวศรีวงศ์

พุทธศาสนากับมรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์

พระไพศาล วิสาโล

สมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นเพียงปัญหาหนึ่ง

อนุสรณ์ ลิ่มมณี

เส้นทางสังคมไทย 156 ปี (พ.ศ. 2398-2554)

ธเนศวร์ เจริญเมือง

ทุนนิยมโลกกับวิวัฒนาการของรัฐไทย

กุลลดา เกษบุญชูมี้ด

พระบารมีปกเกล้าฯ ใต้เงาอินทรี แผนสงคราม จิตวิทยาอเมริกัน กับการสร้างสถาบันกษัตริย์ให้เป็น สัญลักษณ์แห่งชาติ

ณัฐพล ใจจริง

รายชื่อสื่อสิ่งพิมพ์ต้านคอมมิวนิสต์

แผนยุทธศาสตร์ด้านจิตวิทยาของสหรัฐอเมริกาต่อชาวไทยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คณะกรรมการ

ยุทธศาสตร์ด้านจิตวิทยา

อัญชลี มณีโรจน์ แปล

Rupture รอยแตกข้างหลังภาพ

ธนาวิ โชติประดิษฐ

บทความปริทัศน์

จินตนาการหรือความจริงเรื่องความรุนแรงที่เล่นซ่อนหาอยู่ในหมู่บ้านที่ไม่สงบ

สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี

วิกิลีกส์

มูลบท” ว่าด้วยราชวงศ์ไทยและการเมืองสมัยปลายรัชกาลฉบับอเมริกัน

ธนาพล อิ๋วสกุล

ประเทศไทย: แวดวงกลุ่มอิทธิพลภายในสถาบันกษัตริย์ในช่วงชีวิตอัสดงคตของกษัตริย์ภูมิพล

เอริก จี. จอห์น

รายงานพิเศษ

1 ปีความยุติธรรมที่หายไป

คำถามที่ยังค้างอยู่เกี่ยวกับการตายและการชันสูตรศพ

กฤตยา อาชวนิจกุล

ความยุติธรรมที่ล่าช้าคือการปฏิเสธความยุติธรรม

สาวตรี สุขศรี

การเมืองในการสร้างความทรงจำว่าด้วยความตายเดือน เม.ย.-พ.ค. 53

ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี

อ่านต่อ >>

มรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์มรดกของใคร?

ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางสังคมใด ๆ ที่ตัดขาดจากรากฐานสังคมเดิมอย่างสิ้นเชิง แม้หลายครั้งพลังที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจะมาจากภายนอก แต่ผลของมันจะออกมาในรูปใดล้วนเกิดจากการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งที่เป็น เนื้อดินเดิมของสังคมนั้นๆ แม้แต่การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475 ที่เกิดพร้อมกับ อวสานสมบูรณาญาสิทธิราชย์สยามเมื่อเกือบ 80 ปีก่อนก็เกิดขึ้นภายใต้ข้อจำกัดเช่นนี้

แต่สิ่งที่ทำให้สยาม/ไทยแตกต่างจากสังคมอื่น โดยเฉพาะเพื่อนบ้านนั้น อาจเป็นเพราะเราไม่เคยแตกหักกับระบอบสมบูรณาญาสิทธิ์ผ่านการปฏิวัติประชาชาติอย่างในประเทศที่ตกเป็นอาณานิคมโดยตรง

มรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์ยังอยู่กับทุกอณูของปัจจุบันนี่คือข้อเสนอของธงชัย วินิจจะกูล ในปาฐกถา มรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในปัจจุบันซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของชุมนุมปาฐกถา 70 ปี ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เมื่อ วันที่ 7 พฤษภาคม 2554

ธงชัยเสนอว่า สมบูรณาญาสิทธิราชย์สยาม ไม่ใช่เพียงแค่ระบอบการเมืองทางการที่จบไปแล้ว แต่หมายถึงยุคสมัยหรือช่วงขณะที่เป็นรากฐานของไทยสมัยใหม่ หมายถึงระบอบอำนาจ ภูมิปัญญา วัฒนธรรม และวาทกรรมสำคัญๆ ที่ก่อรูปเกิดขึ้นท่ามกลางการเคลื่อนตัวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ และกลายเป็นรากฐานของสังคมไทยสมัยใหม่ต่อมาอีกนาน ไม่ใช่แค่ช่วง 50 ปีนับจากปลายรัชกาลที่ 5 ถึงสิ้นรัชกาลที่ 7”

ในมุมมองของธงชัย มรดกสำคัญที่สมบูรณาญาสิทธิราชย์สยามทิ้งไว้ ได้แก่

ระบบการปกครองแบบรวมศูนย์ ลัทธิรัฐเดี่ยวที่แข็งทื่อ ประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยม พุทธศาสนากับความเป็นไทย และสังคมอินทรียภาพที่มีอำนาจทรงธรรมเป็นหัวใจขององคาพยพทั้งหมด โดยมี (สถาบัน) พระมหากษัตริย์เป็นปัจจัยร่วมที่ยึดโยงรากฐานเหล่านี้ของรัฐไทยสมัยใหม่เข้าด้วยกัน

ณ ปัจจุบัน มรดกของสมบูรณาญาสิทธิราชย์สยาม ยังปรากฏให้เห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันตามสื่อต่างๆ เช่น

“ ‘ป๋าเปรมรับไม่ได้ 3จว.ใต้ ขอใช้ภาษามลายูในราชการ” (มติชนรายวัน, 25 มิถุนายน 2549)

ศรีสะเกษลุกฮือชุมนุมใหญ่ทวงคืน เขาวิหาร’ 14 ก.ย. ลั่นไม่ยอมเสียแผ่นดินไทยแม้นิ้วเดียว” (ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 12 กันยายน 2552)

“ ‘เสรีนำทีมประชาสันติปฏิญาณ ร.5 ดันพุทธศาสนาประจำชาติ” (ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 10 มิถุนายน 2554 )

“‘สนธิ ลิ้มทองกุลนำปฏิญาณ ถวายคืนพระราชอำนาจแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อขอพระราชทานผู้นำปฏิรูปการเมือง” (ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 12 พฤศจิกายน 2548)

แต่มรดกที่เป็นรากฐานของปัญหาเรื้อรังในสังคมการเมืองไทยปัจจุบันเหล่านี้ เกิดจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์สยามเพียงฝ่ายเดียวหรือ?

หรือที่จริงแล้วเป็นมรดกที่อีกหลายฝ่ายร่วมกันสร้าง?

เป็นมรดกของใครกันแน่?

ฟ้าเดียวกัน จึงได้เชื้อเชิญผู้รู้อีก 5 ท่านมาร่วม วิวาทะกับธงชัย ประกอบด้วย นิธิ เอียวศรีวงศ์ พระไพศาล วิสาโล อนุสรณ์ ลิ่มมณี ธเนศวร์ เจริญเมือง และกุลลดา เกษบุญชู-มีด

ประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกันคือ ปัญหาของการเมืองไทยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางในปัจจุบันนั้นเป็น มรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์หรือเป็น ประวัติศาสตร์ที่เพิ่งสร้างในยุคหลัง และไม่มีความต่อเนื่องกับสถาบันกษัตริย์ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์?

บทความ พระบารมีปกเกล้าฯ ใต้เงาอินทรี : แผนสงครามจิตวิทยาอเมริกัน กับการสร้างสถาบันกษัตริย์ให้เป็น สัญลักษณ์แห่งชาติของณัฐพล ใจจริง ได้เปิดประเด็นให้เห็นว่า สถาบันกษัตริย์สมัยใหม่แบบที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั้น ถูก สร้างขึ้นโดยสหรัฐอเมริกาในยุคสงครามเย็น และมีลักษณะเป็น ราชา (ไม่) ชาตินิยมเพราะยินยอมพร้อมใจทำตามความต้องการของมหาอำนาจ เช่น ยอมให้สหรัฐฯ ใช้ประเทศไทยเป็นฐานทัพโจมตีประเทศเพื่อนบ้าน โดยไม่คำนึงถึงปัญหาเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติแต่อย่างใด

ภายใต้สภาวะปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างขนานใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 “รัฐประหารเพื่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ทำให้การเมืองไทยแบ่งขั้วกันอย่างชัดเจน ดังจะเห็นได้จากผลการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม 2554

ชนบทไทยอันห่างไกลที่เคยเป็นฐานสำคัญของอุดมการณ์กษัตริย์นิยม (ผ่านการเสด็จพระราชดำเนินชนบท ซึ่งเชื่อมโยงกับอุดมการณ์ต่อต้านคอมมิวนิสต์ในยุคสงครามเย็น) ก็ถูกเชื่อมโยงเข้าหากันด้วยเทคโนโลยีการสื่อสาร ได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่แตกต่างจากโฆษณาชวนเชื่อฉบับของทางการ ส่งผลให้เกิดอาการ ตาสว่างกันเป็นจำนวนมาก สวนทางกับอุดมการณ์ รักในหลวงของชนชั้นกลางในเมือง ดังที่แสดงออกให้เห็นอย่างชัดเจนโดยเฉพาะในเครือข่ายทางสังคมออนไลน์

คำถามก็คือ มรดกที่ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ได้ทิ้งไว้นั้น จะมีพลังหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นได้หรือไม่ สถาบันกษัตริย์ซึ่งเป็นปัจจัยยึดโยงมรดกสมบูรณาญาสิทธิราชย์จะ ตาสว่างพอที่จะมองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นแล้วในระดับรากหญ้า และยอมเปิดช่องทางให้กับการประนีประนอมหรือไม่ หรือยังจะใช้ไม้แข็งเร่งให้สถานการณ์ สุกเร็วโดยไม่จำเป็น?

เราเชื่อว่าประชาชนจำนวนมากคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว แต่ฝ่ายสถาบันกษัตริย์และผู้นิยมเจ้านั้นเล่า…

อ่านต่อ >>