สารบัญ
บทบรรณาธิการ
จดหมายถึงกองบก.
ปฏิกิริยา
การสนับสนุนของรัฐบาลและปรีดีเป็นปัจจัยสำคัญฯ
สุพจน์ ด่านตระกูล
การเดินทางสู่ห้วงเหวของการเมืองภาคประชาชน
สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี
หาเรื่องมาเล่า
รถไฟสายการค้า รถไฟสายการเมือง
สรัญญา มูลมา
คำขบวน
Consensus Decision – Making
ภัควดี วีระภาสพงษ์
ใต้ฟ้าเดียวกัน
เมืองไทย
สากล
บทความพิเศษ
ความรุนแรงกับกาลเวลา
ชัยวัฒน์สถาอานันท์
รายงานพิเศษ
“รัฐบาลเปรม 5+1”
ธนาพล อิ๋วสกุล
ชานหนังสือ
รู้จักอุษาคเนย์
ความจริงกับการจัดการความจริง
ในกระแส
เค้าโครงการกับการต่อสู้ของพีโซลในบราซิล
ปิยะมิตร ลีลาธรรม
หน้าซ้ายในประวัติศาสตร์
ครั้งไปพิมาย
วิชัย นภารัศมี
“บันทึกเมื่อไปพิมาย”
จิตร ภูมิศักดิ์
สัมภาษณ์พิเศษ
ทักษิโณมิคส์ จะอยู่กับเราอย่างน้อย 10 – 20 ปี
ผาสุก พงษ์ไพจิตร
ส่องศิลป์
“แปลงสินทรัพย์เป็นทุน”ฯ
พัชรี อังกูรทัศนียรัตน์
ทัศนะวิพากษ์
ทุนนิยมอังกฤษกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในศตวรรษที่ 19
กุลลดา เกษบุญชู-มี้ด
ราชาแห่งทุนนิยม
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
การเงินและมิติที่สี่
โรบิน แบล็กเบิร์น เขียน สฤณี อาชวานันทกุล แปล
จาก “กึ่งเมืองขึ้น กึ่งศักดินา” ถึง “ทุนนิยม”
ธิกานต์ ศรีนารา
บทบรรณาธิการ
แด่ คุณนวมทอง ไพรวัลย์
ทุกครั้งของการรัฐประหารเสียงของคนคัดค้านมักจะเป็นเสียงส่วนน้อยเสมอ เหตุผลไม่ใช่เพราะคณะรัฐประหารปิดกั้นสื่อแต่เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะคณะรัฐประหารฉวยใช้โอกาสที่สังคมถูกทำให้หมดหวังกับการเมืองในระบบ และได้ปลุกปั้นให้ผู้คนหวังพึ่งพาบรรดาเทวดาหลากสีให้จุติลงมาแก้ปัญหา
เมื่อรัฐประหารเกิดขึ้นสื่อมวลชนซึ่งควรเป็นด่านหน้าการปกป้องระบอบประชาธิปไตยซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญในวิชาชีพ กลับเป็นโฆษกของคณะรัฐประหารเสียทุกครั้ง เมื่อผสมกับการสนับสนุนของบรรดา “ขาใหญ่ นักประชาธิปไตย-นักสิทธิมนุษยชน” ด้วยเหตุผลประหลาดๆ ว่า แม้รัฐประหารจะเลวร้ายสักเพียงใด แต่ก็ไม่มีความเลวร้ายใดจะเทียบได้กับ “ระบอบทักษิณ”, รัฐธรรมนูญถูกฉีกทิ้งตั้งแต่ก่อนรัฐประหารเสียอีก หรือแม้แต่การเสนอ “ทฤษฎีว่าด้วยสิทธิในการทำรัฐประหาร” ฯลฯ จนทำให้การรัฐประหาร 19 กันยา ดูเหมือนจะกลาย เป็น “ฉันทามติของสังคมไทย” ไปแล้ว
ขณะที่ผู้คัดค้านการรัฐประหารถ้าไม่ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกกลุ่มอำนาจเก่าหรือคลื่นใต้น้ำ ก็จะถูกเย้ยหยันด้วยคำถากถางต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นพวกสำรากประชาธิปไตยตะวันตก, ไร้เดียงสาทางการเมือง, นักประชาธิปไตยหัวรุนแรง, นักกฎหมายหัวเหลี่ยม, ขัดแข้งขัดขาพวกเดียวกันเอง ฯลฯ
ภายใต้บรรยากาศที่สังคมกำลังชื่นชมกับการรัฐประหารอยู่นั้น คุณนวมทอง ไพรวัลย์ ได้ “สละชีพเพื่อประชาธิปไตย” ด้วยการขับรถแท็กซี่ชนรถถังในวันที่ 30 กันยายน 2549 ที่ไม่เพียงแต่ประท้วงคณะ รัฐประหารเท่านั้น แต่เป็นการประท้วงต่อสังคมไทยด้วย
1 เดือนผ่านไป “วีรกรรม” ของคุณนวมทอง ไพรวัลย์ กลายเป็นเรื่องเหลวไหล ดังบันทึกสุดท้ายของเขาที่ว่า “ข่าวของผมที่ชนรถถังเพื่อประท้วง คปค. ลงข่าว นสพ. วันเดียวเงียบหายไปเลย ผมรักษาตัวที่โรงพยาบาลวชิรฯ 13 วัน คุณหมออนุญาตให้กลับมาพักฟื้นที่บ้านและนำ นสพ. ที่เสนอข่าวชนรถถังประท้วง คปค. ของ ผม พบคำสัมภาษณ์ท่านรองโฆษก ใน นสพ. ตรงกันหลายฉบับด้วยถ้อยคำที่กล่าวมาข้างต้นและยังปรามาสว่าผมแก่แล้ว คงทำด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ก็มีเวลาเอาสีมาพ่นข้อความรอบตัวรถยังคิดว่าอารมณ์ชั่ววูบ ไม่น่าให้ทำงานและกินเงินเดือนที่ได้มาจากภาษีของประชาชนเลย”
เสียงของคุณนวมทอง ไพรวัลย์ ไปไม่ถึงบรรดา “ขาใหญ่ นักประชาธิปไตย-นักสิทธิมนุษยชน” เพราะพวกเขากำลังเมามันอยู่กับการสร้าง “สังคมที่ดี” ภายใต้โครงสร้างของระบอบเผด็จการทหารในหัวโขนที่ชื่อ “สภานิติบัญญัติ” “สภาร่างรัฐธรรมนูญ” หรือตำแหน่งอื่นใดอันมาจากการรัฐประหาร
นี่หรือไม่ที่นำมาสู่โศกนาฏกรรมในค่ำคืนแห่งการเปลี่ยนผ่านของเดือนตุลาคม ที่ผลักไสให้คุณนวมทอง ไพรวัลย์ กลับไปเลือกเส้นทาง “สละชีพเพื่อประชาธิปไตย” อีกครั้ง
“ผมเลือกวันสุดท้ายของเดือนตุลาคมเป็นวันพลีชีพเพราะเดือนนี้เป็นเดือนที่วิญญาณของวีรชนที่สถิตอยู่ที่อนุสรณ์สถานฯ ที่ผมทำการพลีชีพนี้ได้เรียกร้องกระทั่งได้มาซึ่งประชาธิปไตย และวิญญาณของผมก็จะสถิตอยู่กับเหล่าวีรชนแห่งนี้ตลอดไป และขอยืนยันว่าปฏิบัติการทั้งสองครั้งทำด้วยใจ ไม่มีใครจ้าง
“สุดท้ายขอให้ลูกๆ และภรรยาจงภูมิใจในตัวพ่อ ไม่ต้องเสียใจ ชาติหน้าเกิดมาคงไม่พบเจอการปฏิวัติอีก”
เป็นความจริงที่ว่า การรัฐประหาร 19 กันยาได้ “เกิดขึ้นแล้ว” เราไม่สามารถเปลี่ยนมันได้ แต่ก็เป็นความจริงที่ว่าโศกนาฏกรรมของคุณนวมทอง ไพรวัลย์ ก็ “เกิดขึ้นแล้ว” เราไม่สามารถเปลี่ยนมันได้แต่เราสามารถกำหนดท่าที่ในการต่อต้านรัฐประหารได้มิใช่หรือ?
-ฟ้าเดียวกัน – ขอคารวะคุณนวมทอง ไพรวัลย์ ด้วยบทกวี “พลังประชาชน” บทกวีชิ้นสุดท้ายของ กุหลาบ สายประดิษฐ์ ที่คุณนวมทอง ไพรวัลย์ เลือกมาเพื่อประกาศเจตนารมณ์ของตนเอง
หยดฝนย้อย หยาดฟ้า มาสู่ดิน
ประมวลสิ้น เป็นมหาสาครใหญ่
แผดเสียงซัด ปฐพี จึงมีไป
พลังไหล แรงรุด สุดต้านทาน
อันประชา สามัคคี มีจัดตั้ง
เป็นพลัง แกร่งกล้า มหาศาล
แสนอาวุธ แสนศัตรู หมู่อันธพาล
ไม่อาจต้าน แรงมหา ประชาชน
กุหลาบ สายประดิษฐ์