Sale 10%

ฟ้าเดียวกัน 8/2 : ความยุติธรรมในระยะเปลี่ยน(ไม่)ผ่าน

Original price was: 200.00 บาท.Current price is: 180.00 บาท.

รหัส: 9786169080206 หมวดหมู่:

สารบัญ

บทบรรณาธิการ

ความยุติธรรมในระยะเปลี่ยน(ไม่)ผ่าน

หาเรื่องมาเล่า

เปิดตัวเว็บไซต์ ‘นิติราษฎร์’: เปิดแนวรบทางความคิด ติดอาวุธทางปัญญา

ดาริน อินทร์เหมือน

จาก “ชาวนา” สู่ “ชาวบ้านผู้รู้จักโลกกว้าง” : ความเปลี่ยนแปลงของ “ชนบท” อีสาน

ดาริน อินทร์เหมือน

คำขบวน

New Social Movements :ขบวนการสังคมใหม่

ภัควดี วีระภาสพงษ์

พากย์สนาม

High Stakes :การเดิมพันครั้งใหญ่ ชนพื้นเมือง เงินตรา และอำนาจอธิปไตย

บุญเลิศ วิเศษปรีชา

มหาชนทัศนะ

“กษัตริย์ไม่อาจครองราชย์” เครื่องมือแก้ไขปัญหา กรณีกษัตริย์เบลเยี่ยมไม่ยอมลงนามประกาศใช้พระราชบัญญัติ

ปิยบุตร แสงกนกกุล

รายงานพิเศษ

ชนชั้นนำไทยกับการ “เปลี่ยนผ่าน” รัชสมัย : อนุสนธิจากโทรเลขทูตสหรัฐ ฯ ฉบับวันที่ 25 มกราคม 2553 ในวิกีลีกส์

ธนาพล อิ๋วสกุล

ทัศนะวิพากษ์

การปฏิวัติสยาม 2475 (ชั่วคราว)?: พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์และอำนาจตุลาการหลัง การเปลี่ยนแปลงการปกครอง

วรเจตน์ ภาคีรัตน์

ชาดกในประวัติศาสตร์นิพนธ์ไทย: บทวิจารณ์หนังสือเอกกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ ของวิมลพรรณ ปีตธวัชชัย

ณัฐพล ใจจริง

ชนชั้นใหม่ ชนบทใหม่ และท้องถิ่นใหม่: บททบทวนวรรณกรรมว่าด้วยการเมืองไทยในทศวรรษ 2530-2550

ยุกติ มุกดาวิจิตร

ขบวนการคนเสื้อแดง การเมืองท้องถิ่น และประชาธิปไตย

พฤกษ์ เถาถวิล

ความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน

ความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านกับกรณีของไทย

ธงชัย วินิจจะกูล เขียน พงษ์เลิศ พงษ์วนานต์ แปล

การแสวงหาข้อเท็จจริงและกระบวนการรับผิด : กรณีการสลายการชุมนุม เม.ย.-พ.ค. 53

สาวตรี สุขศรี

ลงทัณฑ์ผู้นำเขมรแดง: 30 ปีก็ไม่สายเกินไป

พวงทอง ภวัครพันธุ์

ความยุติธรรมระยะเปลี่ยนผ่าน : กรณีศึกษาประเทศอาร์เจนตินา

ภัควดี ไม่มีนามสกุล

การรัฐประหาร 11 กันยาฯ (9/11) กับการปราบปรามประชาชนในประเทศชิลี : จากระบอบปิโนเชต์สู่กระบวนการยุติธรรมข้ามชาติ

จิตจิภัทร พูนขำ,สลิสา ยุกตะนันทน์

ความรุนแรงในประเทศอาร์เมเนียและไทย : สาเหตุเดียวกัน เหตุการณ์แบบเดียวกัน ข้อสรุปก็น่าจะเหมือนกัน

แดนทอง บรีน

ความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน : เมื่อโลกไม่หันหลังให้โศกนาฏกรรม

ประจักษ์ ก้องกีรติ

หน้าซ้ายในประวัติศาสตร์

ว่าด้วยค่ารายงานของหลี่จี้ชินในการประชุมตัวแทนทั่วประเทศพรรคคอมมิวนิสต์ไทยครั้งแรก ธันวาคม พ.ศ. 2485

สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ

เอกสารสถาปนาแนวร่วมประชาชาติต่อต้านญี่ปุ่น และขยายการต่อสู้ต่อต้านญี่ปุ่น

บทบรรณาธิการ

ความยุติธรรมในระยะเปลี่ยน (ไม่) ผ่าน

โดยไม่ต้องรอให้ผลสอบของคณะกรรมการ ค้นหาความจริงชุดใดๆ ออกมามวลชนเสื้อแดงที่ไปชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ในโอกาสครบรอบ 4 เดือนการสังหารหมู่พฤษภาคม 2553 ก็ได้เขียนรายชื่อ ผู้ต้องสงสัยที่พวกเขาคิดว่าเป็นผู้สั่งการให้ล้อมปราบมวลชนเสื้อแดงในเหตุการณ์นองเลือดเมษายน-พฤษภาคม 2553 แต่ไม่ทันรุ่งสาง ข้อความดังกล่าวก็ถูกลบออกไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นี่เป็นอีกหนึ่งในข้อจำกัดของการแสวงหาข้อเท็จจริงในสังคมไทยเกี่ยวกับการฆาตกรรมทางการเมืองในระยะเวลาอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 หรือ พฤษภา 35

หากแม้แต่การสงสัยยังเกิดขึ้นไม่ได้ ก็คงยากที่ข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านอันจะเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายจะเกิดขึ้น

เมื่อการหาข้อเท็จจริงอย่างรอบด้านไม่เกิดขึ้น ก็อย่าหวังว่าความยุติธรรมจะเกิดขึ้นตามมา

เมื่อความยุติธรรมไม่เกิดขึ้น ก็เป็นไปไม่ได้ที่การสมานฉันท์/ปรองดองที่หลายคนเรียกร้องจะเกิดขึ้น

ธงชัย วินิจจะกูล ได้ชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความยุติธรรมยากจะเกิดขึ้นได้ในสังคมไทย ก็คือ ไม่มี “‘การเปลี่ยนแปลงเชิงระบอบ (regime change)’เกิดขึ้นอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นเงื่อนไขพื้นฐานที่สุดในการแสวงหาความยุติธรรมหรือการปรองดองใดๆ

อะไรคือ การเปลี่ยนแปลงเชิงระบอบธงชัยให้คำนิยามสั้นๆ ว่า คือการที่ ผู้ที่อาจมีบทบาทโดยตรงหรือโดยอ้อมในการปราบปรามเข่นฆ่า หรือผู้ที่มีส่วนได้เสียกับผลของการสืบสวน จะต้องออกจากอำนาจและพ้นไปจากกลไกการแสวงหาความยุติธรรมและการปรองดอง” (ดู ธงชัย วินิจจะกูล ความยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่านกับกรณีของไทยหน้า 132-137)

คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นคือ ถ้าในปัจจุบันไม่มี การเปลี่ยนแปลงเชิงระบอบเกิดขึ้น หรืออาจจะต้องใช้เวลานานนับทศวรรษดังเช่นหลายกรณีในอเมริกาใต้แล้ว เราไม่ควรทำอะไรเพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรมหรือ ?

เราไม่ต้องแสวงหาข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมเท่าที่มีช่องทางเอื้ออำนวยหรือ?

เราไม่ต้องเยียวยาผู้บาดเจ็บ พิการ ตลอดจนญาติวีรชนที่ต้องสูญเสียคนที่เขารักหรือ?

เราไม่ต้องเก็บรวบรวม/ถ่ายทอดความทรงจำ เพื่อสร้างเป็นความทรงจำร่วมของสังคมต่อเหตุการณ์เมษา-พฤษภา 53 หรือ?

จะมีประโยชน์อันใดเล่า ถ้ามี การเปลี่ยนแปลงเชิงระบอบเกิดขึ้นจริง แต่เราไม่มีพยานหลักฐานที่จะเอาผิดฆาตกรผู้สั่งฆ่าประชาชน?

จะมีประโยชน์อันใดเล่า ถ้ามี การเปลี่ยนแปลงเชิงระบอบแล้ว เอาคนสั่งการมาลงโทษได้ แต่ผู้บาดเจ็บ พิการ ตลอดจนญาติวีรชน ถูกทอดทิ้งให้เป็นสิ่งตกค้างทางประวัติศาสตร์?

จะมีประโยชน์อันใดเล่า ถ้ามี การเปลี่ยนแปลงเชิงระบอบแล้ว แต่กลับไม่มีพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ให้กับเหตุการณ์เมษา-พฤษภา 53 หรือความรุนแรงทางการเมืองอื่นๆ ที่ถูกปิดทับมานานนับทศวรรษ?

ภายใต้สภาพการณ์ที่ การเปลี่ยนแปลงเชิงระบอบยังไม่เกิดขึ้น หรือที่เราเรียกว่าในระยะ เปลี่ยน (ไม่) ผ่านการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรมนั้นแยกไม่ออกจากความพยายามที่จะ เปลี่ยนแปลงระบอบที่ขัดขวางการแสวงหาความยุติธรรม

สุดท้าย ภายใต้สภาพการณ์ที่ ความยุติธรรมเปลี่ยน (ไม่) ผ่านบทกวี บวงสรวงวีรชนของไพบูลย์ วงษ์เทศ ที่เขียนขึ้นหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 สามารถสะท้อนจิตวิญญาณแห่งยุคสมัยได้เป็นอย่างดี เราจึงขอยกมากล่าวซ้ำ ณ ที่นี้

แม้ดับเทียนสีทองส่องสว่าง

มิอาจกับรอยด่างให้เลือนได้

วันนี้ไม่มีเสียงสำเนียงใด

พรุ่งนี้เสียงจะใสถึงดวงดาว

ดาวจักเรืองแจ่มหล้าเมื่อฟ้าหม่น

เดือนจะโรจน์อำพนเมื่อมืดหาว

เรียงถ้อยร้อยกวีวะวับวาว

บันทึกคราวคับแค้นในแดนไตร

แม้ไม่มียุติธรรมในวันนี้

แต่ขอบฟ้ายังมีอรุณใหม่

ใครก่อเวรสร้างกรรมกระทำไว้

จักต้องรับชดใช้ชำระคืน

ทดลองอ่าน