ฟ้าเดียวกัน 1/3 : เส้นทางสู่อหังการแห่งอำนาจ

฿80.00


สินค้าหมดแล้ว

รหัสสินค้า: 97716856880053 หมวดหมู่:

ข้อมูลสินค้า

บทบรรณาธิการ

ปฏิกิริยา

หาเรื่องมาเล่า

เปิดวิทยานิพนธ์ คนไร้บ้าน

กรีดร้องแต่ไร้คนยิน

เกาะกระแสวิชาการสมัยใหม่

ทัศนะวิพากษ์

5 ปี ปฏิรูปการเมืองไทยในมุมมองเศรษฐศาสตร์

รังสรรค์ ธนะพรพันธุ์

ทัศนะวิพากษ์เศรษฐศาสตร์รัฐธรรมนูญ

กองบรรณาธิการ

เครือข่ายสลัม 4 ภาค : ประวัติศาสตร์และบทเรียน

บุญเลิศ วิเศษปรีชา

ส่องสังคม

Space

แก้วเก้า พงษ์ไพบูลย์

สยามพากษ์

ศึกษารัฐไทย : วิพากษ์ไทยศึกษา

เบเนดิกท์ อาร์. โอ จี. แอนเดอร์สัน

มนุษยภาพ

ลูล่า ประธานาธิบดีแห่งชนชั้นกรรมาชีพ ?

วรางคณา รัตนรัตน์

หน้าซ้ายในประวัติศาสตร์

การวิเคราะห์ 14 ตุลา ในสถานการณ์สู้รบที่ปฏิวัติ

กองบรรณาธิการ

บันทึกรายงานสรุปผลการสัมมนา สรุป วิเคราะห์และประเมินกรณี 14 ตุลาคม 2516

อ่านต่อ >>

อหังการแห่งอำนาจ

การอ้างความจำเป็นฉุกเฉินของคณะรัฐมนตรี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ในการใช้อำนาจฝ่ายบริหาร ออกพระราชกำหนด ดูเหมือนจะกลายเป็นความเคยชินของการเมืองไทยไปเสียแล้ว เพราะนับตั้งแต่การก้าวสู่อำนาจในเดือนกุมภาพันธ์ 2544 จนถึงปัจจุบัน (สิงหาคม 2546) รัฐบาลชุดนี้ออกพระราชกำหนดมาแล้ว 8 ฉบับ โดยแบ่งเป็นพระราชกำหนดเพื่อ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ6 ฉบับ และเพื่อ ความปลอดภัยต่อสาธารณะอีก 2 ฉบับ

ถึงแม้เสียงทักท้วงต่อพฤติกรรมดังกล่าวจะมีเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็นฟากของคณาจารย์นักกฎหมายที่เกรงว่าจะเป็น การบิดเบือนการใช้อำนาจอันเป็นการทำลายรากฐานการปกครองในระบบนิติรัฐและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันเป็นหลักการสำคัญที่ได้รับการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือจากฟากขององค์เอกชนหลาย ๆ องค์กรที่ตั้งข้อสังเกตถึงการเอื้อประโยชน์ต่อเครือข่ายธุรกิจของนายกรัฐมนตรีและบริวาร

แต่ดูเหมือนว่าเสียงทักท้วงเหล่านี้จะไม่มีผลต่อการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด

ครั้นจะหวังองค์กรอิสระที่ตั้งขึ้นมาเพื่อคานอำนาจก็ดูเหมือนจะเป็นความหวังที่เลื่อนลอย เพราะนอกจากองค์กรอิสระเหล่านี้จะประพฤติตนเป็น นักนิติอักษร

ศาสตร์ในการวินิจฉัยแล้ว บรรดา เนติบริกรที่มีส่วนสำคัญในการร่างรัฐธรรมนูญ ยังเป็นกระบอกเสียงในการสร้างความชอบธรรมให้กับทุก ๆ พฤติกรรมที่รัฐบาลได้แสดงออกมาอีกด้วย

แต่การจะบอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นพฤติกรรมส่วนตัวของนักการเมือง คิดใหม่ ทำใหม่แต่เพียงฝ่ายเดียวก็ดูเหมือนจะเป็นการโยนความผิดไปที่ตัวบุคคลไปเสียทั้งหมดเพราะสิ่งที่หนุนเสริมให้เกิดปรากฏการณ์ อหังการแห่งอำนาจนั้น เป็นผลมาจากรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 หรือที่เรียกกันอย่างติดปากว่า รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอยู่ไม่น้อย

ถึงแม้รัฐธรรมนูญฉบับนี้จะเปิดพื้นที่ให้กับการเมืองภาคประชาชนด้วยการรับรองสิทธิต่าง ๆ มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย การถอดถอนนักการเมือง สิทธิชุมชน ฯลฯ แต่ในทางปฏิบัติสิทธิเหล่านั้นยังอยู่อีกห่างไกลที่จะสัมฤทธิ์ผลได้อย่างแท้จริง เพราะนอกจากกฎหมายลูกจะไม่เอื้อต่อการใช้สิทธิแล้ว ต้นทุนปฏิบัติการบางครั้งก็เกินกว่าประชาชนจะแบกรับไหว

ขณะเดียวกัน รัฐธรรมนูญก็ได้ให้อำนาจฝ่ายบริหารเป็นอย่างมากในนาม การสร้างภาวะผู้นำของ นายกรัฐมนตรีเราจึงพบว่า การตรวจสอบนายกรัฐมนตรีทำได้ยากขึ้น, การเพิ่มอำนาจฝ่ายบริหารในการออกกฎหมายโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ, รัฐธรรมนูญยังมีอคติต่อพรรคการเมืองขนาดเล็ก ฯลฯ ยังไม่รวมทั้งการมีอคติเรื่องการศึกษาว่าคนไม่จบปริญญาตรีไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะเป็นตัวแทนประชาชน ทั้ง ส.ส. และ ส.ว.

แต่การจะแก้ปัญหาโดยเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นดูจะเป็นการง่ายเกินไป เพราะถึงที่สุดปรากฏการณ์ อหังการแห่งอำนาจนอกจากจะมีรัฐธรรมนูญเป็นปัจจัยหนุนเสริมแล้ว กระแสความนิยมในตัวรัฐบาลอันเป็นผลมาจากการนำเสนอชุดนโยบายที่ โดนใจประชาชนก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การตอบสนองเสียงที่แตกต่างของรัฐบาลชุดนี้ยิ่งแข็งกร้าวขึ้นทุกวัน

เส้นทางสู่อหังการแห่งอำนาจ ซึ่งเป็นการนำเอาปาฐกถา 5 ปี ปฏิรูป การเมืองไทยในมุมมองเศรษฐศาสตร์ของรังสรรค์ ธนะพรพันธุ์ พร้อมด้วย ทัศนะวิพากษ์ต่อข้อเสนอดังกล่าวจากมุมมองที่หลากหลาย จึงเป็นความพยายามหนึ่งของกองบรรณาธิการที่นำมาเสนอใน ฟ้าเดียวกัน ฉบับนี้ พร้อม ๆ กับคอลัมน์อื่น ๆ ที่ได้รับความช่วยเหลือจากหลาย ๆ ท่าน จนวารสารราย 3 เดือนฉบับนี้ยังคงออกมาได้เป็นฉบับที่ 3 ซึ่งทางกองบรรณาธิการขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ ด้วย

อนึ่ง จากที่กองบรรณาธิการได้นำแจ้งต่อผู้อ่านว่า ฟ้าเดียวกัน ฉบับที่ 3 จะลงบทความชิ้นที่ต่อจากการเมืองเรื่อง ความจริงแท้ทางวัฒนธรรมของประวิตร โรจนพฤกษ์นั้น เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องขนาดของวารสาร จึงขอยกบทความชิ้นดังกล่าวไปไว้ในฉบับต่อไป

อ่านต่อ >>